แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 33
1
การจัดฟันเด็ก จะดีกว่าการจัดฟันในตอนโตอย่างไร

การจัดฟันในเด็ก หรือที่เรียกว่า การจัดฟันระยะที่ 1 (Phase 1 Orthodontics) หรือ การจัดฟันแบบป้องกันและแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ (Interceptive Orthodontics) มีข้อดีและข้อได้เปรียบหลายประการเมื่อเทียบกับการรอจัดฟันในตอนโตเป็นผู้ใหญ่ค่ะ โดยหลักๆ แล้วจะใช้ประโยชน์จากช่วงที่ร่างกายเด็กกำลังมีการเจริญเติบโต

นี่คือเหตุผลที่การจัดฟันในเด็กมักจะดีกว่าการจัดฟันในตอนโต:

1. ควบคุมและปรับการเจริญเติบโตของขากรรไกรได้ (Growth Modification)
ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุด: ในวัยเด็ก กระดูกขากรรไกรยังอยู่ในช่วงของการเจริญเติบโตและพัฒนา ทำให้ทันตแพทย์สามารถใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อชี้นำ (guide) หรือปรับทิศทางการเจริญเติบโตของขากรรไกรได้ เช่น หากเด็กมีขากรรไกรบนแคบเกินไป หรือขากรรไกรล่างยื่น/ถอยผิดปกติ การจัดฟันตั้งแต่เด็กสามารถขยายขากรรไกร หรือกระตุ้น/ยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรให้สมดุลได้ง่ายและเป็นธรรมชาติกว่า

ลดความจำเป็นในการผ่าตัดขากรรไกร: ในผู้ใหญ่ที่การเจริญเติบโตของกระดูกหยุดแล้ว ปัญหาขากรรไกรที่ไม่สมดุลอย่างรุนแรงอาจจำเป็นต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดขากรรไกร ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน แต่ในเด็กมักจะสามารถหลีกเลี่ยงการผ่าตัดได้

2. สร้างพื้นที่ให้ฟันแท้ขึ้นได้อย่างเหมาะสม (Space Management)
ป้องกันฟันซ้อนเก/ฟันคุด: เมื่อเด็กมีปัญหาการหลุดของฟันน้ำนมก่อนกำหนด หรือมีช่องว่างไม่เพียงพอสำหรับฟันแท้ที่จะขึ้น การจัดฟันเด็กสามารถใช้เครื่องมือกันฟันล้ม (Space Maintainer) หรือขยายพื้นที่ เพื่อให้ฟันแท้สามารถขึ้นมาในตำแหน่งที่ถูกต้องได้ ลดโอกาสการเกิดฟันซ้อนเกอย่างรุนแรง หรือฟันคุด

ลดโอกาสการถอนฟันแท้: การมีพื้นที่เพียงพอตั้งแต่แรกจะช่วยลดความจำเป็นในการถอนฟันแท้ในอนาคตเพื่อสร้างช่องว่าง


3. แก้ไขปัญหาการสบฟันที่ซับซ้อนได้ง่ายกว่า
ฟันสบคร่อม (Crossbite): การแก้ไขฟันสบคร่อมทั้งฟันหน้าและฟันหลังในวัยเด็กทำได้ง่ายกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า เนื่องจากขากรรไกรยังสามารถปรับเปลี่ยนได้

ฟันสบเปิด (Open Bite) หรือฟันยื่น (Protrusion): มักเกิดจากพฤติกรรมดูดนิ้ว ดูดจุกนมหลอก หรือลิ้นดุนฟัน การแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ พร้อมกับการจัดฟัน จะช่วยให้ฟันกลับมาสบกันได้ดีขึ้น


4. ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าและเจ็บปวดน้อยกว่า
กระบวนการปรับโครงสร้างกระดูก: ในวัยเด็ก กระบวนการสร้างและสลายกระดูก (Bone remodeling) เกิดขึ้นได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ ทำให้ฟันสามารถเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้เร็วกว่า

ความรู้สึกเจ็บปวด: เนื่องจากฟันเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่า จึงไม่จำเป็นต้องใช้แรงดึงมากเท่าผู้ใหญ่ ทำให้เด็กมีอาการเจ็บปวดหรือรู้สึกไม่สบายตัวน้อยกว่า


5. แก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ดี (Habit Correction)
การดูดนิ้ว การดูดจุกนมหลอก หรือการเอาลิ้นดุนฟัน หากทำต่อเนื่องนานๆ จะส่งผลเสียต่อการเรียงตัวของฟันและการเจริญเติบโตของขากรรไกร การจัดฟันเด็กสามารถช่วยแก้ไขหรือเลิกพฤติกรรมเหล่านี้ได้ ก่อนที่จะส่งผลเสียถาวร


6. ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของฟันหน้า
เด็กที่มีฟันหน้าบนยื่นออกมามาก (Overjet) มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการบาดเจ็บหรือฟันแตกหักจากการพลัดตกหกล้ม หรืออุบัติเหตุ การจัดฟันเพื่อดึงฟันหน้าเข้าที่สามารถลดความเสี่ยงนี้ได้


7. เสริมสร้างสุขภาพช่องปากโดยรวม
การแก้ไขปัญหาฟันซ้อนเกหรือการสบฟันที่ผิดปกติ จะช่วยให้เด็กสามารถแปรงฟันและทำความสะอาดช่องปากได้ทั่วถึงมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุและโรคเหงือกในระยะยาว


8. เพิ่มความมั่นใจและบุคลิกภาพ
การมีฟันที่เรียงตัวสวยงามและรอยยิ้มที่มั่นใจตั้งแต่เด็ก ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจให้เด็ก ไม่ถูกเพื่อนล้อเลียน และมีพัฒนาการทางด้านจิตใจที่ดี

สรุปคือ การจัดฟันในเด็กมักมีลักษณะเป็นการ "จัดฟันเชิงป้องกัน" หรือ "จัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้าง" ในขณะที่ร่างกายยังมีการเจริญเติบโต ซึ่งจะช่วยให้การรักษาในระยะยาวง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และบางครั้งอาจหลีกเลี่ยงการรักษาที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจจัดฟันในเด็กควรปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคลค่ะ

2
บริหารจัดการอาคาร: ข้อดีของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์

ในปัจจุบัน เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ มีความจำเป็นอย่างมากในอากาศที่ร้อนอบอ้าว เชื่อว่า มีแทบทุกบ้าน เพราะมีความจำเป็นสำหรับใครหลายๆคน เนื่องจากอากาศในบ้านเราต้องบอกว่า มีอากาศที่ร้อนแทบจะตลอดทั้งปี ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อใช้ในการคลายร้อน ทำให้ความรู้สึกเย็นสบาย แต่เราก็ต้องแลกกับค่าไฟที่ต้องเพิ่มมากขึ้น แต่หากเราติดเครื่องปรับอากาศเพื่ออำนวยความสะดวกก็ต้องมั่นใจว่าเครื่องปรับอากาศของเรานั้น จะมีอายุการใช้งานที่นานและมีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ

แต่ก็มีหลายบ้านที่มักจะเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน โดยไม่ได้พักแอร์เลย ก็ทำให้แอร์ต้องทำงานหนัก และสกปรกได้ง่าย เพราะยิ่งเราเปิดแอร์ ก็ยิ่งทำให้แอร์มีการสะสมของฝุ่นเป็นจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งการใช้งานแอร์ที่หนักเกินไปนั้น ทำให้เราต้องทำความสะอาดแอร์บ่อยๆ แต่ยิ่งเราเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน ค่าไฟก็จะยิ่งพุ่งสูงเป็นธรรมดา เพราะแอร์ ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ค่อนข้างเปลืองไฟ แต่ก็มีเทคนิคที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าไฟฟ้าไปได้เยอะ

เพียงแค่เราใช้งานแอร์อย่างถูกต้อง ซึ่งในสมัยนี้ก็มีเครื่องปรับอากาศรุ่นต่างๆเกิดข้นมากมาย หนึ่งในนั้น คือแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ ที่เป็นแอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อดีของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่สนใจจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้พิจารณาในการเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสม

 แอร์อินเวอร์เตอร์ คือแอร์ที่ทำงานโดยกระบวนการแปลงไฟฟ้าจากกระแสตรง ไปเป็นกระแสสลับ  เพื่อควบคุมรอบมอเตอร์ของคอมเพรสเซอร์ได้อย่างละเอียดกว่าการปรับกระแสไฟฟ้าสลับโดยตรงที่ทำได้เพียงแค่ ตัด/ต่อ เหมือนแอร์บ้านทั่วไป และสามารถชะลอการทำงานได้อย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นต้องตัดไฟ หรือ จ่ายไฟเปิดคอมเพรสเซอร์ เพื่อควบคุมอุณหภูมิห้องเลย

ดังนั้นข้อได้เปรียบของแอร์ชนิดนี้อย่างแรกก็คือ การประหยัดไฟที่มากกว่า โดยลักษณะพิเศษของ แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ คือ ทำงานเงียบ ด้วยความที่มันสามารถควบคุมกำลังไฟที่ตัว คอมเพรสเซอร์ได้ ดังนั้น การทำงานจึงแตกต่างจากอีกประเภท คือมันสามารถเร่งระดับการทำความเย็นได้สูงสุดเพื่อให้ อุณหภูมิไปแตะถึงจุดที่กำหนด
จากนั้นก็ปรับกำลังไฟที่ตัวคอมเพรสเซอร์ เพื่อ ปรับระดับการทำงานให้เบาลงและรักษาระดับอุณหภูมิไว้ การทำงานจึงค่อนข้างมีเสียงเบากว่า และยังทำความเย็น ได้รวดเร็วกว่า เพราะเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นได้เร็วกว่าเครื่องระบบธรรมดา ที่มีค่า BTU หรือ หน่วยทำความเย็นเท่ากัน

นอกจากนี้ การทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ก็ยังขึ้นอยู่กับองศาที่เราเปิดด้วยเช่นกัน สมมติว่าเราเปิดแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ที่ 18 องศาเท่ากับแอร์ธรรมดา ห้องที่จะเย็นเร็วกว่า คือห้องที่ใช้ ระบบอินเวอร์เตอร์เพราะคอมเพรสเซอร์จะปรับระดับการทำงานสูงสุดเพื่อให้อุณหภูมิไปแตะองศาที่กำหนดได้เร็วขึ้น แถมยังให้อุณหภูมิใกล้เคียงกับค่าที่กำหนดมากกว่า เพราะความสามารถในการควบคุมระดับการทำงานของคอมเพรสเซอร์ได้นั่นเอง ทำให้ เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิที่กำหนดมากกว่า

ซึ่งอาจจะต่ำหรือสูงกว่า 1 องศา เท่านั้น และยังมีคอมเพรสเซอร์ ที่มีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น เนื่องจากเมื่อแอร์ไม่ต้องตัดไฟบ่อย ๆ คอมเพรสเซอร์ก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไป คอมเพรสเซอร์แอร์ ระบบอินเวอร์เตอร์จะมีระยะเวลารับประกันถึง 10 ปีเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามค่าซ่อมบำรุงก็จะสูงกว่าแอร์ธรรมดา อย่างไรก็ตาม แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ จะมีราคาที่แพงกว่าแอร์ธรรมดาอย่างชัดเจน เพราะด้วยเรื่องของฟังก์ชันต่าง ๆ ที่กล่าวมาแต่ถ้าเทียบความคุ้มค่า หากใช้งานบ่อย ๆ แล้ว ก็คุ้มที่จะเลือกใช้งานอย่างแน่นอน

 อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากที่จะตรวจสอบหรือเช็คระบบแอร์ หรืองานซ่อมบำรุง สามารถขอรายละเอียดได้จากทางเรามีบริการดูแลระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศภายในอาคาร ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะนั่นหมายถึงอากาศที่ดีที่เราสูดดมเข้าไป ถ้าหากเรามีระบบเครื่องปรับอากาศที่ไม่สะอาดแล้ว อาจจะทำให้เราเสียสุขภาพไปด้วย เพราะฉะนั้น ให้ทางเราได้ดูแลในเรื่องของระบบปรับอากาศของคุณให้มีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

3
9 ข้อดีฉนวนกันความร้อน ที่ผู้ประกอบการโรงงานควรรู้

โรงงานอุตสาหกรรมใดไม่มีการวางแผนติดตั้ง “ฉนวนกันความร้อน” ในโรงงาน โรงงานอุตสาหกรรมนั้นกำลังเดินทางเสี่ยงอยู่ ที่ในไม่เร็วก็ช้า ต้นทุนในการผลิตจะสูงขึ้น เครื่องจักรจะทำงานหนักเสื่อมสภาพเร็ว พนักงานจะทำงานอย่างไร้ประสิทธิภาพเนื่องจากบรรยากาศในการทำงานไม่เอื้ออำนวย และท้ายที่สุดอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันพนักงานประสบอุบัติเหตุภายในโรงงานได้

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าฉนวนกันความร้อนนั้นมีความสำคัญเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ในการเลือกฉนวนกันความร้อน ก็ต้องเลือกที่มีคุณภาพด้วย ซึ่งในปัจจุบัน ฉนวนกันความร้อน ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความไว้วางใจจากโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ด้วยข้อดีที่แตกต่างตอบโจทย์รอบด้านในทุกมิติ ดังต่อไปนี้


1.ฉนวนกันความร้อน กันความร้อนได้ดีมีประสิทธิภาพ

ด้วยเพราะมีค่าการนำความร้อนต่ำจึงสามารถต้านทานความร้อนได้ดี บวกกับมีความหนาของเนื้อฉนวนที่มากกว่าฉนวนกันความร้อนทั่วไป จึงทำให้ลดปริมาณความร้อนที่จะเข้ามาสะสมภายในโรงงานได้เป็นจำนวนมาก เมื่อนำติดตั้งในจุดที่เป็นทางผ่านของการสะสมความร้อนสูง ๆ จึงช่วยลดความร้อนลงได้ ทำให้เกิดบรรยากาศที่เย็นสบายได้ทั่วทั้งโรงงาน


2.ฉนวนกันความร้อน ช่วยดูดซับเสียงได้

ด้วยเพราะฉนวนกันความร้อนมีความหนาที่มากกว่าฉนวนทั่วไปในท้องตลาด และเป็นฉนวนที่มีคุณภาพ จึงมีส่วนช่วยในการดูดซับเสียงไปด้วยในตัว ทำให้เมื่อนำไปติดตั้งบริเวณที่มีเสียงดัง เช่น บริเวณหลังคา เวลาฝนตกจึงกันเสียงฝนตกกระทบหลังคาได้ดี หรือไปบุในท่อระบบปรับอากาศ ก็ช่วยลดเสียงการทำงานของระบบปรับอากาศไม่ให้ดังเข้ามาในโรงงานได้ด้วย


3.ฉนวนกันความร้อนไม่ลามไฟ

เพราะเป็นวัสดุที่ผ่านการทดสอบมาตรฐาน ASTM E84 และ BS476 ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว จึงไม่เป็นชนวนก่อให้เกิดอัคคีภัย รวมถึงหากเกิดเหตุอัคคีภัยขึ้น ตัวฉนวนกันความร้อน ก็จะช่วยหยุดการลุกลามของเพลิงไหม้ และลดทอนความเสียหายลงได้อย่างมาก ถือเป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่โรงงานอุตสาหกรรมควรให้ความสำคัญเลือกใช้ติดตั้งเอาไว้ เพื่อป้องกันความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

4.ฉนวนกันความร้อน ติดตั้งง่าย

ด้วยเพราะฉนวนกันความร้อนมีน้ำหนักเบา ทนต่อแรงดึง จึงทำให้เวลาติดตั้งไม่ฉีกขาดง่าย คงสภาพความเป็นฉนวนที่มีประสิทธิภาพได้ดี ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงงานไม่จำเป็นต้องติดตั้งเองให้เสี่ยง หรือเสียเวลาก็ได้ ออกแบบติดตั้งให้แล้วเสร็จ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้ประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า


5.ฉนวนกันความร้อน ทนต่อแรงกดได้ดี

ด้วยเพราะมีความยืดหยุ่นสูง สามาถคืนตัวได้ดีหลังจากถูกกดทับ จึงทำให้ฉนวนกันความร้อน ไม่สูญเสียคุณสมบัติในการเป็นฉนวน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานติดตั้งในโรงงานอุตสหากรรมที่มีความเสี่ยงต่อการถูกแรงกดทับได้ง่ายในหลาย ๆ โอกาส


6.ฉนวนกันความร้อน ป้องกันการควบแน่นได้ดี

เมื่อความร้อนกระทบถูกอากาศบริเวณรอบ ๆ จะเกิดการควบแน่นกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ซึ่งหยดน้ำที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นความชื้นสะสม ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ ผุพัง เกิดเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้อีก

ดังนั้น ฉนวนกันความร้อน จึงได้รับการผลิตขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยมีวัสดุปิดผิวที่ช่วยกันความชื้นได้ดี และเมื่อบวกกับความหนาของเนื้อฉนวนที่เหมาะสมกับการใช้งาน จึงทำให้ป้องกันการเกิดการควบแน่นได้จากความแตกต่างของอุณหภูมิ ทำให้คงความเป็นฉนวนได้อย่างมีประสิทธิภาพยาวนาน และไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพพนักงานในโรงงาน


7.ฉนวนกันความร้อน มีอายุการใช้งานยาวนาน

ฉนวนกันความร้อน เป็นฉนวนคุณภาพที่ผลิตอย่างพิถีพิถัน ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม มีอายุการใช้งานได้ยาวนานมากกว่า 10 ปี ทำให้เป็นการลงทุนครั้งเดียว แต่ช่วยประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนในการผลิตได้อย่างมหาศาล คืนเป็นกำไรให้กับผู้ประกอบการในระยะยาว


8.ฉนวนกันความร้อนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ฉนวนกันความร้อน เป็นฉนวนใยแก้วที่ผลิตมาจากแก้วรีไซเคิล 100% ทั้งยังผลิตภายใต้กระบวนการผลิตที่ควบคุมปริมาณคาร์บอนของเสียอีกด้วย จึงทำให้เป็นฉนวนที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งฉนวนใยแก้วยังไม่มีสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ได้รับการรับรองจาก WHO จึงทำให้ดีต่อสุขภาพร่างกายของพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่โรงงานด้วย


9.ฉนวนกันความร้อน มีครบทุกประเภทตอบโจทย์รอบด้าน

ในโรงงาน ๆ หนึ่ง มีจุดที่จำเป็นต้องติดตั้งฉนวนกันความร้อนแตกต่างกันไป และบางทีก็มากกว่า 1 จุด เช่น บริเวณหลังคาโรงงาน บริเวณห้องเครื่องจักรอุณหภูมิสูง บริเวณระบบปรับอากาศ บริเวณผนังโรงงาน เป็นต้น ซึ่งมีฉนวนกันความร้อนครบทุกประเภท ทุกโจทย์พื้นที่การใช้งาน จึงทำให้สามารถออกแบบติดตั้งได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ครบวงจรในคราวเดียวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

การติดตั้งฉนวนกันความร้อนภายในโรงงาน ถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องทำ หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการปล่อยให้ความร้อนสะสมภายในโรงงานมากเกินไป จะส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของพนักงาน ซึ่งหากเกิดเหตุพนักงานเจ็บป่วยจากสภาพแวดล้อมในโรงงาน ก็จะถือว่ามีประเด็นต้องตรวจสอบที่อาจนำไปสู่การทำความผิดตามกฎหมายได้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผลออกมาเป็นแบบนั้น ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจ

4
แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เหมาะสม ของการเริ่มต้นอาชีพเสริม สำหรับมือใหม่

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นอาชีพเสริมออนไลน์ การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับมือใหม่:

1. แพลตฟอร์ม E-commerce:

Shopee/Lazada:
เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในประเทศไทย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าออนไลน์
มีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ขายเริ่มต้นได้ง่าย เช่น ระบบจัดการร้านค้า ระบบชำระเงิน และระบบขนส่ง
มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ทำให้มีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น
มีคอร์สเรียนรู้สำหรับผู้ขายมือใหม่

LINE SHOPPING:
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าที่ใช้ LINE เป็นประจำ
สามารถเชื่อมต่อกับบัญชี LINE OA ทำให้ง่ายต่อการสื่อสารกับลูกค้า
มีเครื่องมือช่วยสร้างร้านค้าออนไลน์ได้ง่าย

2. แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย:

Facebook Marketplace:
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้ามือสอง หรือสินค้าทำเอง
ใช้งานง่าย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย
สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายได้โดยการโฆษณา

Instagram:
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าที่มีภาพสวยงาม หรือสินค้าแฟชั่น
มีฟีเจอร์ Instagram Shopping ที่ช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้โดยตรงจากโพสต์

TikTok
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างคอนเทนต์วิดีโอสั้นเพื่อโปรโมทสินค้าหรือบริการ
มีฟีเจอร์ TikTok Shop ที่ช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้โดยตรงจากวิดีโอ

3. แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์:

Fastwork/Freelancebay:
เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะเฉพาะด้าน เช่น การเขียนบทความ แปลภาษา ออกแบบกราฟิก หรือตัดต่อวิดีโอ
มีงานหลากหลายประเภทให้เลือกทำ และสามารถกำหนดค่าตอบแทนได้เอง

4. แพลตฟอร์มสร้างคอนเทนต์:

YouTube:
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างคอนเทนต์วิดีโอ และหารายได้จากโฆษณาหรือสปอนเซอร์
มีฐานผู้ชมขนาดใหญ่ และสามารถสร้างรายได้ในระยะยาว

Blockdit:
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเขียนบทความ หรือสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ
มีฐานผู้ใช้งานที่สนใจเนื้อหาที่หลากหลาย

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของคุณ และกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ศึกษาการใช้งานแพลตฟอร์ม และเรียนรู้เทคนิคการตลาดออนไลน์
สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า
การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นอาชีพเสริมออนไลน์

5
โรคปอดบวม ปอดอักเสบ สาเหตุ อาการ และการป้องกัน

ความกังวลใจเกี่ยวกับโรคปอดบวมปอดอักเสบเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีรายงานผู้ป่วยในภูมิภาคต่างๆเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเข้าถึงข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการติดเชื้อทางเดินหายใจเพื่อทำความเข้าใจอาการ สาเหตุ มาตรการป้องกัน และสิ่งที่ควรทำหากต้องเผชิญกับการติดเชื้อจึงเป็นเรื่องสำคัญ

โรคปอดบวม ปอดอักเสบคืออะไร?

โรคปอดบวม ปอดอักเสบ คือการติดเชื้อที่ทำให้ถุงลมในปอดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างอักเสบ โดยภาวะนี้อาจมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง โดยอาการจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ อายุ และสุขภาพโดยรวม อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ไอ มีเสมหะสีเข้ม มีไข้ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก เหนื่อยล้า และอาจมีคลื่นไส้ร่วมด้วย

โรคปอดบวม ปอดอักเสบ เกิดจากอะไร?

โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบอาจเกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด รวมถึงแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา ชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือโรคปอดบวมจากแบคทีเรีย ซึ่งมักเกิดจาก Streptococcus pneumoniae ส่วนโรคปอดบวมจากไวรัส โรคปอดบวมจากเชื้อรา โรคปอดบวมที่โรงพยาบาล และโรคปอดบวมจากการสำลัก เป็นรูปแบบอื่นที่มีสาเหตุและผลกระทบที่แตกต่างกันไป

อาการปอดบวม ปอดอักเสบ

การตระหนักถึงอาการของโรคปอดบวม ปอดอักเสบ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อการรักษาที่ถูกต้องอย่างทันท่วงที ซึ่งรวมไปถึงการเฝ้าสังเกตอาการเช่นการไออย่างต่อเนื่อง หากมีเสมหะสีเข้ม มีไข้หนาวสั่น หายใจลำบาก เจ็บหน้าอกรุนแรงขึ้นเมื่อหายใจเข้าลึกๆ เบื่ออาหาร และสับสน ความรุนแรงของอาการอาจแตกต่างกันไป โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจะมีอาการรุนแรงมากขึ้น

กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุดต่อโรคปอดบวม ปอดอักเสบ

ประชากรบางกลุ่มอาจมีความเสี่ยงสูงต่อโรคปอดบวมปอดอักเสบรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กทารกอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี หรือบุคคลที่มีภาวะสุขภาพพื้นฐานหรือมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ในขณะที่ทารกแรกเกิดอาจไม่แสดงอาการที่ชัดเจน และที่ผู้สูงอายุอาจมีอาการน้อยลงและเบาลง แต่เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงการรับรู้อย่างกะทันหันได้

วิธีป้องกันโรคปอดบวม ปอดอักเสบ

การป้องกันเป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของโรคปอดบวม การฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงถือเป็นสิ่งสำคัญ การปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่ดี เช่น การล้างมือเป็นประจำ การใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมืออยู่เสมอ และการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ จะช่วยลดความเสี่ยงได้ การรักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีเช่นการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ การออกกำลังกายเป็นประจำ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย

จะทำอย่างไรถ้าเราป่วยเป็นโรคปอดบวม ปอดอักเสบ

หากคุณสงสัยว่าคุณหรือคนที่คุณรู้จักเป็นโรคปอดบวม ควรไปพบแพทย์โดยทันที สัญญาณฉุกเฉิน ได้แก่ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก มีไข้สูง และไอรุนแรง สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ต้องพบแพทย์ทันที เนื่องจากโรคปอดบวมอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเผชิญกับข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับโรคปอดบวมอย่างต่อเนื่อง การทำความเข้าใจอาการ สาเหตุ และมาตรการป้องกันจะช่วยให้บุคคลสามารถดำเนินการเชิงรุกต่อสุขภาพของตนเองได้ การพบแพทย์อย่างทันท่วงทีเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับโรคปอดบวมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ด้วยการรับทราบ ข้อมูลที่ถูกต้อง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน เราสามารถร่วมกันลดผลกระทบของโรคปอดบวมปอดอักเสบได้อย่างแน่นอน

6
แก้ไขปัญหาคางเบี้ยว ด้วยการจัดฟันเด็ก

สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่ามีความสำคัญมาก และพ่อแม่ผู้ปกครองทีหน้าที่ที่จะคอยเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของลูก เพื่อที่เด็กจะได้เรียนรู้วิธีการดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันที่ถูกต้อง ควรที่จะปลูกฝังให้เด็กใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะทำให้เด็กมีปัญหาในเรื่องดังกล่าวได้ เพราะปัญหาเรื่องของช่องปากและฟันนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะการดูแลฟันไม่สะอาด


แต่สามารถเกิดจากพฤติกรรมบงอย่างของเด็กที่ส่งผลทำให้เกิดปัญหาฟัน หรือปัญหาเรื่องโครงสร้างของใบหน้าได้ เช่น เด็กมีภาวะคางเบี้ยว ซึ่งอาการดังกล่าวนี้ การเข้ารับการจดฟันในเด็กสามารถแก้ไขได้ ซึ่งเด็กในวัยนี้ เหมาะสำหรับการจัดฟันในเด็ก โดยการใช้เครื่องมือ EF LINE ซึ่งเป็นการจัดฟันในเด็กที่สามารถแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ


ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต จึงจะมีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง และพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดที่ลูกมีปัญหาในเรื่องของภาวะคางเบี้ยวหรือปัญหาด้านอื่นที่เกี่ยวกับความผิดปกติขิงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ก็สามารถพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์จัดฟัน ด้วยการรักษาด้วยเครื่องมือ EF LINEได้

ก่อนที่เราจะมาพูดถึงการแก้ไขปัญหาคางเบี้ยว เราจะมาพูดถึงเรื่องของเครื่องมือการจัดฟัน EF LINE ก่อน เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองบางท่านอาจจะยังไม่เข้าใจในกระบวนการการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF LINE ซึ่งเครื่องมือ EF LINE เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อทำการปรับแก้ไขปัญหาของกล้ามเนื้อซึ่งต้องร่วมกับการฝึกโดยการออกกำลังกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนการหายใจให้ถูกวิธี รวมถึงการใช้เครื่องมือเพื่อช่วยปรับการกลืนให้ถูกต้อง สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 4 -15 ปี สามารถแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น

และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า เป็นต้น หากเด็กมีปัญหาดังกล่าว พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาเด็กเข้ารับการตรวจเพื่อเข้ารับการแก้ไขด้วยการจัดฟันในเด็ก  เพื่อให้บุตรหลานของท่านไม่เสียโอกาสที่จะได้รับการแก้ไขปัญหาและช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าเพื่อผลการจัดฟันที่ดีขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย และยังช่วยส่งเสริมในเรื่องขอบสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กในอนาคตได้อีกด้วย สำหรับปัญหาคางเบี้ยว ขากรรไกรล่างเบนไปจากแนวกลางใบหน้า เนื่องจากตำแหน่งฟันผิดปกติ


ซึ่งอาจจะเกิดจากการสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนกำหนด จะมีผลทำให้กระดูกเบ้าฟันบริเวณนั้นเจริญเติบโตน้อยกว่าปกติ และมีการเคลื่อนที่ของฟันข้างเคียงเข้าสู่ช่องว่างนั้นแคบลง ไม่มีที่เพียงพอสำหรับการขึ้นของฟันแท้ที่จะขึ้นมาแทนที่ หรือที่เราเรียกว่า อาการฟันแท้หาย ซึ่งการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถแก้ไขได้ ดังน้ัน หากใช้เครื่องมือ EF LINE เพื่อปรับสมดุลกล้ามเนื้อ จะทำให้จัดฟันง่ายและเสร็จเร็วมากขึ้น ทั้งยังเป็นการป้องกันปัญหาการคืนกลับตำแหน่งเดิมของฟันหลังจัดฟันด้วย


หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดอยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ไม่ว่าจะเป้นการแก้ไขปัญหาฟันอื่นๆ ก็สามารถพาบุตรหลานเข้าพบทันตแพทย์จัดฟันของทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการจัดฟันในเด็ก และมีประสบการณ์อย่างยาวนาน จึงสามารถให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้อง จึงมั่นใจได้ว่า ถ้าหากเด้กได้รับการจัดฟันในเด็กที่คลินิกก็จะทำให้เด็กมีฟันที่สวยงามเป้นะรรมชาติ มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัยได้อย่างแน่นอน เพราะเราอยากให้เด็กทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันและกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่และมีความสุข

7
รถยนต์ไฟฟ้า 2025: เนต้า Neta V II Smart ปี 2024
459,000 บาท

เนต้า Neta V II Smart ปี 2024
NETA V-II Smart รถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนรอคอยรุ่นประกอบในประเทศไทย นับว่าเป็นไมเนอร์เชนจ์เล็ก ๆ เริ่มด้วยกระจังหน้าใหม่ลายตาข่ายดูหรูหราขึ้นกว่าเดิม ไฟท้ายลายใหม่พร้อมเส้นไฟยาวพาดเชื่อมถึงกัน และติดตั้งที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง เพิ่มระบบ ADAS - Adaptive Cruise Control แบต 36.1 kW วิ่งไกล 382 km. ชาร์จ DC ราคาจำหน่าย 569,000 บาท ปรับลดเหลือ 459,000 บาท มาพร้อมการรับประกัน ดังนี้
รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
รับประกันคุณภาพมอเตอร์ไฟฟ้า 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์            Neta
   รุ่น                 เนต้า Neta V II Smart ปี 2024
   ประเภทรถ        รถเก๋ง 5 ประตู, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว         2024
   ราคา             459,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
สปอยเลอร์หลัง
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ไฟท้าย LED (แบบ Through-type LED)
ขนาดยางหน้า-หลัง (185/55R16)
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (LED)
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (แผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้า,ไฟแสดงสถานะการชาร์จแบตเตอรี่,ไฟส่องนำทางขณะดับเครื่องยนต์)
ยางอะไหล่สำรอง (จะได้เป็นชุดซ่อมยางฉุกเฉิน)
ไฟ Daytime Running Lights
ล้ออัลลอย (16 นิ้ว)

   ภายใน
กระจกมองหลังตัดแสง
อุปกรณ์ภายในอื่นๆ (เกียร์ไฟฟ้า)
พวงมาลัยไฟฟ้า

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                  Permanent Magnet Synchronous Motor กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)    แรงม้า
   ระบบเกียร์                      เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS              มี
   ชนิดแบตเตอรี่                ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่             36.1 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง      382 กม.
   น้ำหนักตัวรถ                            -
   ประเภทยางรถยนต์                    -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                     ล้ออัลลอย (16 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                    ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัย
  อุปกรณ์ความปลอดภัย
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESC,ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS)
ตัวถังนิรภัย (HSS Body)
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค (เมื่ออออกตัวรถ)
กุญแจรีโมท (Smart Key)
กุญแจนิรภัย (Immobilizer)
ไฟเบรกดวงที่ 3 (LED)
สัญญาณเตือนถอยหลัง
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบป้องกันการไหลโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง,ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS,ระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0,ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่)
เข็มขัดนิรภัย (คู่หน้าแบบรั้งตัวและดึงกลับอัตโนมัติ,แถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง)
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HAC/ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC)
อื่นๆ (ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน)
กล้อง (มองหลัง)
เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collisio
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB)
เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)

8
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


9
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


10
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


11
หมอออนไลน์: เห็บกัด

เห็บ นอกจากจะเป็นพาหะนำไข้รากสาดใหญ่ชนิด epidemic typhus แล้ว บางชนิดยังมีพิษที่สามารถทำลายระบบประสาทให้กลายเป็นอัมพาตได้อีกด้วย


อาการ

ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการเฉพาะที่ เป็นตุ่มคันหายได้ภายใน 2-3 วัน แต่อาจทำให้เกาจนเป็นหนองได้ แต่ถ้านำตัวออกไม่หมด ยังมีหัวของมันฝังอยู่ในผิวหนัง ตุ่มนี้อาจโตขึ้น (ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นก้อนมะเร็งได้) บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการอัมพาตคล้ายโปลิโอ เมื่อนำหัวของมันออกก็จะค่อย ๆ หายได้ แต่ถ้าปล่อยจนกล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาตก็อาจทำให้หยุดหายใจตายได้

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้ดึงเห็บออกพร้อมหัว อย่าให้มีส่วนของหัวค้างอยู่ในผิวหนัง อาจใช้น้ำมันหรือยาหม่องทา หรือใช้บุหรี่ติดไฟลนใกล้ตัวเห็บ จะช่วยให้หลุดออกง่ายขึ้น

2. ถ้าเกาจนเป็นหนอง ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี ไดคล็อกซาซิลลิน หรืออีริโทรไมซิน

3. ถ้ามีอาการอัมพาต ควรสำรวจว่ามีหัวของเห็บติดอยู่ส่วนไหน แล้วเอาออกหรือผ่าออกเสีย และรีบส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที


การดูแลตนเอง

ถ้าเห็นตัวเห็บ ให้ดึงเห็บออกพร้อมหัว อย่าให้มีส่วนของหัวค้างอยู่ในผิวหนัง อาจใช้น้ำมันหรือยาหม่องทา หรือใช้บุหรี่ติดไฟลนใกล้ตัวเห็บ จะช่วยให้หลุดออกง่ายขึ้น

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    สงสัยว่าดึงตัวเห็บออกไม่หมด
    มีอาการคันมาก หรือเกาจนเป็นหนอง
    มีอาการแขนขาอ่อนแรง


12
ปล่อยรถป้ายแดง Mercedes-Benz EQS 500 4Matic AMG Premium ปี 2023

Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC AMG Premium ปี 2023 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ระดับเรือธงของ Mercedes-EQ ที่นำเสนอความหรูหราล้ำสมัย สมรรถนะอันทรงพลัง และเทคโนโลยีสุดล้ำ โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศไทย ทำให้มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่นำเข้า

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 12 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 2568
รถไฟฟ้า วิ่งไกล 770 กม.
ส่วนลด 2,110,000 บาท
วารันตี เริ่ม 20/10/2023 – 21/10/ 2026

ราคาพิเศษ 5,090,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

มิติตัวถัง
EQS เป็นรถซีดานขนาดใหญ่ที่ให้ความกว้างขวางและสง่างาม:

ความยาว: 5,216 มิลลิเมตร
ความกว้าง: 1,926 มิลลิเมตร (2,125 มม. รวมกระจกมองข้าง)
ความสูง: 1,512 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ: 3,210 มิลลิเมตร
ความจุห้องเก็บสัมภาระท้าย: 610 – 1,770 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)
น้ำหนักตัวรถเปล่า: 2,655 กิโลกรัม (EU)

ขุมพลังและสมรรถนะ (Dual Motor 4MATIC AWD)

รุ่น EQS 500 4MATIC AMG Premium มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4MATIC) ให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม:

มอเตอร์ไฟฟ้า: มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (Dual Permanent Magnet Synchronous Motors) ติดตั้งที่เพลาหน้าและหลัง
กำลังรวมสูงสุด: 330 kW หรือประมาณ 449 แรงม้า (HP)
แรงบิดรวมสูงสุด: 828 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: Lithium-ion (จาก CATL)
ความจุแบตเตอรี่ (ใช้งานได้): 108.4 kWh (บางข้อมูลระบุ 107.8 kWh)
ระยะทางวิ่งสูงสุด (WLTP): 672 กิโลเมตร (บางข้อมูลระบุ 702 กม. หรือ 590 กม. WLTP)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 4.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 210 กม./ชม.

การชาร์จไฟฟ้า:
AC Charging (Type 2): รองรับสูงสุด 11 kW (ชาร์จ 0-100% ในประมาณ 11 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 12 ชั่วโมง 45 นาที)
DC Fast Charging (CCS2): รองรับสูงสุด 150 kW (บางแหล่งระบุสูงสุด 207 kW) ชาร์จจาก 10-80% ในประมาณ 28-31 นาที
มีฟังก์ชัน Battery Preconditioning


13
motor show 2025: ALL NEW MG3 HYBRID+ โชว์ศักยภาพไฮบริดตัวจี๊ดหัวใจนักสู้ในรายการ GC GRID Competition

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย สร้างผลงานในเกมการแข่งขัน Gymkhana อย่างต่อเนื่อง หลังจากส่ง NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ที่ไม่ได้มีการจูนอัพ หรืออัพเกรดช่วงล่างใดๆ กรุยทางประเดิมลงแข่งในสนาม Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 By HarsonTyres เป็นรุ่นแรก ล่าสุด เอ็มจี เสริมทัพเพิ่มอีกรุ่น ด้วยการส่ง ALL NEW MG3 HYBRID+ ลงแข่งขันในรายการเดียวกัน โชว์ศักยภาพ “ไฮบริดตัวจี๊ด” พร้อมต่อยอดการพิสูจน์สมรรถนะของรถแฮทช์แบ็กในสนามแข่งจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบ HYBRID+ ที่ตอบสนองได้ดีส่งให้รถคล่องตัวและควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมในสนามแข่งที่ท้าทาย การลงสนามแข่งครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เอ็มจี ที่มุ่งพัฒนาและยกระดับรถยนต์ให้มีสมรรถนะที่ดี พร้อมลงสนามแข่งได้โดยไม่ต้องปรับจูนเพิ่มเติม
 
ALL NEW MG3 HYBRID+ รถเล็กหัวใจนักแข่ง ขับสนุกได้ทุกวัน พร้อมพุ่งทะยานในสนามจริง
ALL NEW MG3 HYBRID+  คือยนตรกรรมแฮทช์แบ็กไฮบริด 5 ประตู ที่ เอ็มจี วางหมากอย่างมีกลยุทธ์ให้เป็น “ยนตรกรรมไฮบริดตัวจี๊ดพร้อมที่จะก้าวสู่โลกของเกมส์การแข่งขัน” สำหรับคนรุ่นใหม่ที่โหยหาความเร้าใจในชีวิตประจำวัน โดยไม่ละทิ้งความคุ้มค่าในการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม First Jobber ที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน หรือสายขับรุ่นใหม่ที่ต้องการรถคันแรกที่ตอบโจทย์ทั้งความสนุกและความมั่นใจบนท้องถนน รถรุ่นนี้ถูกพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ได้มีดีสำหรับแค่ใช้งานในชีวิตประจำวันที่มอบความประหยัดในสไตล์รถไฮบริด หากแต่ยังมี “ความสามารถที่เกินคาด” ที่พร้อมเปิดประตูสู่เส้นทางการแข่งขัน ด้วยระบบไฮบริดรุ่นใหม่ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) รองรับเชื้อเพลิง E20 กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิดเร้าใจสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร จึงสามารถเร่งจาก 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อย่างฉับไวภายในเวลาเพียง 8 วินาที ช่วงล่างที่ถูกออกแบบใหม่ น้ำหนักเบา ระบบบังคับเลี้ยวแม่นยำ และระบบ Regenerative Braking ช่วยให้ควบคุมได้อย่างมั่นคง แม้ในสถานการณ์ที่ต้องเข้าโค้งหรือเร่งออกตัวอย่างต่อเนื่อง โดดเด่นทั้งประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ด้วยระยะทางวิ่งไกลกว่า 800 กิโลเมตรต่อหนึ่งถังน้ำมัน พื้นที่เก็บสัมภาระที่จุได้มากถึง 1,037 ลิตร พร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองและสายขับทุกเจเนอเรชัน

“GC GRID Competition” เวทีพิสูจน์ DNAs ความพลิ้วไหว ว่องไว ของ “ไฮบริดตัวจี๊ด”
บทพิสูจน์ตัวจริงกับเวทีการแข่งขันสนามพิเศษ GC GRID Competition เอ็มจี เดินหน้าผนึกกำลังพันธมิตรระดับแนวหน้าของวงการ ด้วยความร่วมมือกับยางรถยนต์ YOKOHAMA และครีเอเตอร์สายซิ่ง อย่าง คุณตี้ DayDreamDrive เพื่อยกระดับประสบการณ์การแข่งขันไปอีกขั้น โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นการผสานศิลปะของการควบคุมเข้ากับสมรรถนะรถยนต์อย่างแท้จริง และเส้นทางการแข่งขันที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน แฝงไปด้วยอุปสรรคแบบ Urban Challenge อาทิ โค้งแคบ ทางเลี้ยวต่อเนื่อง และการหลบหลีกในพื้นที่จำกัด เอ็มจี เชื่อมั่นว่าเหมาะที่สุดสำหรับการเผยศักยภาพที่แท้จริงของตัวรถ และการแสดงออกถึงบุคลิก และสมาธิ เทคนิค ของนักแข่ง ร่วมกับ ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่ออกแบบมาให้โดดเด่นในเรื่อง ความคล่องแคล่ว แม่นยำ และการตอบสนองของพวงมาลัยที่เฉียบคม การออกตัวที่ฉับไว ทำให้สามารถพุ่งทะยานเข้าสู่โค้งต่อเนื่องได้ สะท้อนความสมดุลระหว่างความสนุกในการขับขี่กับเทคโนโลยีที่พร้อมลุยทั้งสนามแข่งและท้องถนนจริง


สำหรับการแข่งขันในรายการนี้ รถ ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่ลงแข่งเป็นรถสแตนด์ดาร์ด ไม่มีการจูนเครื่องยนต์หรือตัดต่อกำลังเพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยมีการปรับเปลี่ยนเพียงบางจุดเพื่อให้เหมาะสมกับสนามแข่ง ได้แก่ การเปลี่ยนยางคู่หน้าเป็น YOKOHAMA Advan A052 และยางหลังเป็น YOKOHAMA Advan Neova AD08RS ทั้งหมดผ่านการทดสอบจริงก่อนวันแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการปรับเซ็ตช่วงล่างโดย PROFENDER และติดตั้งชุดระบบเบรกจาก RUNSTOP เพื่อรองรับจังหวะและสไตล์การขับในสนามอย่างเฉพาะเจาะจง
 
ALL NEW MG3 HYBRID+ คว้าอันดับ 3 อย่างงดงาม แม้ไม่มีการจูนเครื่องยนต์
ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้ผ่านการพิสูจน์ความแกร่งในสนามแข่งขันจริงมาแล้วอย่างไม่ธรรมดา ผ่านรายการ GC GRID Competition 2025 รอบที่ 3 และ 4 ณ สนาม ปทุมธานี สปีดเวย์ ที่ระเบิดฟอร์มได้อย่าง โดดเด่น โดยสามารถทะยานคว้าอันดับที่ 3 มาครองได้อย่างสง่างาม ในการแข่งขัน สร้างกระแสชื่นชมบนโซเชียลจากแฟนๆ ที่ไม่คาดคิดว่า ALL NEW MG3 HYBRID+ คันเดียวกับที่ใช้จัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา จะสามารถคว้าอันดับ 3 ซึ่งครั้งนี้ไม่เพียงแค่ตอกย้ำถึงศักยภาพของรถไฮบริดตัวจี๊ดคันนี้ แต่ยังประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า เอ็มจี ไม่ได้เพียงแค่สร้างรถที่ขับขี่สนุกในชีวิตประจำวัน แต่กำลังทะยานเข้าสู่สังเวียนการแข่งขันอย่างมั่นคงและสง่างาม


และในการแข่งขัน GC GRID Competition Exhibition Match ครั้งนี้ ALL NEW MG3 HYBRID+ สามารถสร้างผลงานด้วยการคว้ารางวัล อันดับ 3 รุ่น GC5 “เกียร์ออโต้” (Auto) ได้ทั้ง 2 สนาม ตอกย้ำความเป็น “ไฮบริดตัวจี๊ด” สมรรถนะไฮบริดขับสนุกที่พร้อมลุยทุกโค้งอย่างมั่นใจ นอกจากนี้ NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงจาก เอ็มจี ลงสนามแข่งขันรุ่น GC9 “EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ไม่จำกัดระบบขับเคลื่อน” โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยคว้าอันดับที่ 1 ในการแข่งขันทั้งสองวัน ตอกย้ำศักยภาพของการเป็นรถ “อีวีสายพันธุ์แท้” ที่พร้อมลุยสนามจริงได้อย่างมั่นใจและเร้าใจทุกโค้ง


เสียงจากนักแข่ง “ตี้ DayDreamDrive” ALL NEW MG3 HYBRID+ ทำให้โลกไฮบริดเปลี่ยนไป
คุณตี้ - ฐนอนันต์ ตีระอรรถชวิน จากเพจ DayDreamDrive นักแข่งและครีเอเตอร์สายยานยนต์ชื่อดัง ซึ่งเป็นนักขับหลักของรุ่นนี้ ได้ถ่ายทอดความประทับใจหลังจบการแข่งขันว่า “ALL NEW MG3 HYBRID+ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือความคาดหมายอย่างแท้จริง เดิมทีผมมีความกังวลเล็กน้อยว่ารถไฮบริดที่ไม่ได้มีการปรับแต่งใด ๆ อาจมีอัตราเร่งที่ไม่ทันใจ แต่เมื่อได้ลองขับจริงกลับพบว่า การตอบสนองของตัวรถรวดเร็วและเฉียบคมอย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในสนามที่เต็มไปด้วยโค้งต่อเนื่อง ช่วงล่างและระบบพวงมาลัยถูกออกแบบมาอย่างลงตัว จูนเพิ่มอีกนิดก็สามารถทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจในสนามแข่ง จนให้ความรู้สึกราวกับกำลังขับรถแข่ง ทั้งที่ความจริงแล้วนี่คือรถที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ถือเป็นรถไฮบริดที่เปลี่ยนภาพจำเดิม ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง”
 
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การที่  เอ็มจี นำ ALL NEW MG3 HYBRID+ ลงแข่งขันในเกมการแข่งขันในรูปแบบ Gymkhana เป็นการประสานระหว่างความสามารถการควบคุมของคนขับและสมรรถนะของรถยนต์ที่ลงตัว และถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถไฮบริดรุ่นใหม่จาก เอ็มจี ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่ได้ทุกวันและแฝงไว้ด้วยหัวใจของการขับสนุกที่ถือเป็นเอกลักษณ์การออกแบบรถยนต์ของ เอ็มจี ซึ่งนี่คือสิ่งที่ เอ็มจี ตั้งใจจะมอบให้ ไม่ใช่แค่ในฐานะรถยนต์ที่ใช้งานได้จริงเท่านั้น แต่ เอ็มจี มอบโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสความรู้สึกของเกมการแข่งขันอย่างแท้จริง”

14
เด็กฟันขากรรไกรยื่นจัดฟันเด็กได้ไหม
 
เด็กหลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน เนื่องจากพฤติกรรมต่างๆเช่น การรับประทานอาหาร การแปรงฟันไม่สะอาด หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมในวัยเด็ก อย่างการดูดนิ้ว ดูดขวดนม แต่ปัญหาฟันในบุตรหลานของท่าน สามารถแก้ไขได้เมื่อปัญหานั้นๆ ถูกตรวจพบแต่เนิ่นๆ ในเด็กเล็กอายุไม่เกิน 10 ปี หากเราสามารถตรวจพบความผิดปกติของฟัน ซึ่งอาจเกิดจากการเจริญเติบโตของขากรรไกรที่ผิดปกติ พฤติกรรมการกิน การกลืน และการใช้ฟันผิดหน้าที่ของเด็ก ทันตแพทย์จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้


ถ้าหากปล่อยให้ปัญหาดำเนินต่อไป โดยไม่ได้รับการรักษา จนเด็กคนนั้นเติบโตหรือมีพัฒนาการที่โตขึ้น ร่างกายเจริญเติบโตขึ้น การแก้ไขปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ อาจจะมีความซับซ้อนมากกว่า และอาจต้องมีการผ่าตัด หรือแก้ไขปัญหาข้อต่อขากรรไกรที่เสื่อมสภาพลงด้วย สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเกิดปัญหาขากรรไกรยื่น และอยากที่จะเข้ารับการจัดฟัน ซึ่งพ่อแม่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า

ปัญหาฟันของเด็กแบบไหนที่เหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหา เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และวันนี้ทางคลินิกมีเคสของปัญหาขากรรไกรยื่นมาพูดถึงในแง่มุมของการจัดฟันในเด็ก ซึ่งให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เป้นแนวทางในการแก้ไขปัญหาฟัน เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีฟันที่เรียงตัวสวยงาม และมีรอยยิ้มที่สดใส มั่นใจ เสริมสร้างบุคลิกภาพให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
 
สำหรับการเกิดภาวะขากรรไกรยื่นหลายคนสงสัยว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงเรื่องของความผิดปกติดังกล่าวในเด็กต้องบอกว่า เด็กที่มีปัญหาดังกล่าวนี้ เหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพราะถ้าหากปล่อยไว้และไปแก้ไขตอนโตอาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัดขากรรไกร ร่วมกับการจัดฟัน เพราะการจัดฟันทั้งก่อนผ่าตัดหรือหลังผ่าตัดขากรรไกร

สามารถช่วยแก้ไขความผิดปกติของตำแหน่งของฟันบน และขากรรไกรได้ ทั้งตำแหน่งการเรียงตัวฟันหน้า ฟันหลัง การสบฟันให้เหมาะสม มีส่วนช่วยแก้ไขและปรับปรุงโครงหน้าที่ผิดปกติ แก้ปัญหาการสบฟันให้มีความถูกต้องเหมาะสม เพื่อการเคี้ยวให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้สามารถออกเสียงได้ดีขึ้น ที่สำคัญยังแก้ไขถึงความผิดปกติของรูปหน้าอีกด้วย ทำให้มีใบหน้ามีความสวยงามมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น ในแง่ของการจัดฟันในเด็ก ถ้าหากเด็กมีปัญหาขากรรไกรยื่น ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ทันที อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในเด็ก สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 4-15 ปี เนื่องจากการสบฟันที่ผิดปกติบางอย่าง สามารถแก้ไขได้ หากตรวจพบเมื่อเด็กอายุยังน้อย นอกเหนือจากเรื่องความสวยงาม การเรียงตัวของฟันที่ดีแล้ว การจัดฟัน ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กได้หลายอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ

เมื่อมีฟันเรียงสวย ไม่ซ้อนเก เด็กก็จะแปรงฟันได้ง่ายขึ้น สะอาดขึ้น ซึ่งระเบียบวินัยเรื่องความสะอาดในช่องปาก ถือเป็นสุขอนามัยพื้นฐาน ที่จะอยู่กับเด็กไปตลอดชีวิตนั่นเอง ทั้งนี้ การสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับกรดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันของเด็กก็มีความสำคัญไม่น้อย พ่อแม่ผู้ปกครองควรสร้างความเข้าใจให้เด็กได้เรียนรู้วิธีการดูลักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกวิธี เพื่อที่จะได้เข้าใจและทำความสะอาดฟันอย่างถูกต้อง ลดโอกาสการเกิดฟันผุและการเกิดปัญหาอื่นๆเกี่ยวกับช่องปากและฟันด้วย

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก และยังมีระสบการณ์ด้านทันตกรรมเด็กมาอย่างยาวนาน พร้อมที่จะให้คำแนะนำและคำปรึกษาสำหรับเด็กที่อยากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะทางคลินิกของเรา อยากให้เด็กไทยทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้มีพัฒนาการที่ดีตามไปด้วย และเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ และมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นด้วย

15
หมอประจำบ้าน: มะเร็งกระเพาะอาหาร (Stomach cancer/Gastric cancer)

มะเร็งกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่พบในคนอายุมากกว่า 40 ปี พบมากในช่วงอายุ 60-80 ปี คนอายุน้อยกว่า 40 ปีก็พบได้แต่น้อย มะเร็งชนิดนี้พบประมาณร้อยละ 2.2 ของผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ทั้งหมด และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2 เท่า (สถิติปี 2563)


สาเหตุ

ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายประการ ทั้งปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่

    ปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุด คือ การติดเชื้อเอชไพโลไร (H.pylori/Helicobacter pylori) ของกระเพาะอาหาร ซึ่งทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง (chronic gastritis) และแผลกระเพาะอาหาร พบว่ามากกว่าร้อยละ 60 ของผู้ที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารจะมีประวัติการติดเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ติดเชื้อเอชไพโลไรมีเพียงส่วนน้อย (ประมาณร้อยละ 2) ที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร เชื่อว่าการเกิดมะเร็งชนิดนี้มีปัจจัยเกี่ยวข้องกับสายพันธุ์ของเชื้อ ปัจจัยด้านปัจเจกบุคคลและสิ่งแวดล้อม

    ปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยอื่น ๆ ได้แก่ การสูบบุหรี่, การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัด (วันละมากกว่า 3 ดื่มมาตรฐาน หรือมากกว่าปริมาณแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 30 กรัม), การกินเนื้อสัตว์หมักเกลือ (เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม) เนื้อสัตว์รมควันหรือใส่ดินประสิว (เช่น ไส้กรอก แหนม กุนเชียง เป็นต้น), การกินเนื้อแดง (เนื้อวัว หมู) โดยการปิ้งย่าง, การกินของหมักดอง, การกินผักและผลไม้น้อย, ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน

    ปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ พบว่าประมาณร้อยละ 10 ของผู้ที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มีประวัติมีพ่อแม่พี่น้องหรือญาติสายตรงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

    ปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจพบได้ เช่น การมีติ่งเนื้อเมือก (stomach polyps) ที่กระเพาะอาหาร, การมีประวัติเป็นโรคโลหิตจางชนิดร้ายแรง (pernicious anemia) ซึ่งเกิดจากภาวะขาดวิตามินบี 12, การมีประวัติเคยผ่าตัดกระเพาะอาหารมาก่อน

อาการ

ระยะแรกเริ่มจะไม่มีอาการแสดงใด ๆ ต่อมาเมื่อก้อนมะเร็งโตขึ้นก็จะมีอาการปวดท้อง อาหารไม่ย่อย เรอบ่อย ท้องอืด แน่นท้องตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือเหนือสะดือคล้ายโรคกระเพาะ รู้สึกอิ่มเร็วหลังกินอาหารปริมาณเพียงเล็กน้อย

ในช่วงแรกกินยารักษาโรคกระเพาะอาการก็ทุเลาได้ แต่ต่อมาจะไม่ได้ผลและมีอาการอื่นตามมา เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย กลืนลำบาก เบื่ออาหาร ท้องผูกหรือท้องเดิน คลื่นไส้อาเจียน อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ น้ำหนักลด ซีด ดีซ่าน (ตาเหลือง) เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อน

เมื่อก้อนมะเร็งโตขึ้น ทำให้ทางเดินอาหารอุดกั้น (ปวดท้อง อาเจียน) มีเลือดออก (อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระดำ โลหิตจาง)

มะเร็งมักลุกลามไปที่อวัยวะข้างเคียง ในช่องท้อง (ทำให้ปวดท้อง ท้องมาน) ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง แอ่งเหนือไหปลาร้า และในระยะท้ายมักแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปที่ปอด (เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก), ตับ (เจ็บชายโครงขวา ตาเหลืองตัวเหลือง ท้องมาน), กระดูก (ปวดกระดูก กระดูกพรุน กระดูกหัก ปวดหลัง ไขสันหลังถูกกดทับ) และอาจไปที่สมอง (ปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ แขนขาชาและเป็นอัมพาต ชัก)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ระยะแรกมักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ ระยะต่อมาอาจตรวจพบภาวะซีด ดีซ่าน (ตาเหลือง)

ในรายที่มีก้อนมะเร็งลุกลาม อาจคลำพบก้อนแข็งตรงบริเวณเหนือสะดือหรือใต้ชายโครง หรือตรวจพบต่อมน้ำเหลืองโตที่เหนือบริเวณไหปลาร้าข้างซ้าย ตับโต

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยเอกซเรย์กระเพาะอาหารโดยการกลืนแป้งแบเรียม การใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะอาหาร (gastroscopy) และตัดชิ้นเนื้อนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจหาระดับสารบ่งชี้มะเร็ง (tumor marker) ได้แก่ สารซีอีเอ (carcinoembryonic antigen/CEA) ซึ่งมีส่วนช่วยในการวินิจฉัยและการติดตามผลการรักษา

หากพบว่าเป็นมะเร็งก็จะทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น เอกซเรย์, อัลตราซาวนด์, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI), การตรวจเพทสแกน (PET scan) เป็นต้น เพื่อประเมินว่าเป็นมะเร็งระยะใด


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัด และเคมีบำบัด ในรายที่เป็นมากอาจให้เคมีบำบัดรังสีบำบัด และ/หรือการใช้ยาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy drugs)

ผลการรักษา ถ้าเป็นมะเร็งระยะแรก ๆ การรักษาได้ผลดี หรือหายขาดได้ (มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีประมาณร้อยละ 80-90)

แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์เมื่อมีอาการในระยะท้าย ๆ ซึ่งมะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นแล้ว การรักษามักได้ผลไม่ดี มักมีชีวิตอยู่ได้นานสักระยะหนึ่ง (มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีประมาณร้อยละ 20-40)

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดแน่นท้องตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือเหนือสะดือคล้ายโรคกระเพาะนานเกิน 2-4 สัปดาห์ หรือกินยารักษาโรคกระเพาะไม่ทุเลา, อาเจียนบ่อย, อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ, น้ำหนักลด เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

มีวิธีปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร ดังนี้

    ไม่สูบบุหรี่
    หลีกเลี่ยงการดื่มสุราจัด หากจะดื่มควรดื่มเป็นบางครั้งบางคราว ในปริมาณเล็กน้อย (1 ดื่มมาตรฐานสำหรับผู้หญิง หรือ 2 ดื่มมาตรฐานสำหรับผู้ชาย ต่อวัน)
    หลีกเลี่ยงการกินปลาเค็ม เนื้อเค็ม ผักดอง เนื้อสัตว์รมควันหรือใส่ดินประสิว เนื้อแดงที่ปิ้งย่าง
    กินผักและผลไม้ให้มาก ๆ
    หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
    ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    ถ้าพบว่ามีการติดเชื้อเอชไพโลไรของกระเพาะอาหารควรรักษาให้หายขาด

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีประวัติโรคนี้ในครอบครัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะอาหารตรวจกรองมะเร็งตั้งแต่ก่อนจะมีอาการ หากพบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะแรก การรักษาจะได้ผลดี มีอายุยืนยาว

2. ผู้ที่มีอาการปวดจุกแน่นท้อง หรือมีอาการของโรคกระเพาะเรื้อรังหรือกำเริบบ่อย หรือกินยารักษาโรคกระเพาะแล้วไม่ทุเลา หรือทุเลาในระยะแรกแล้วต่อมายาที่กินกลับไม่ได้ผล หรือมีอาการครั้งแรกเมื่ออายุมากกว่า 40 ปี ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด

3. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

หน้า: [1] 2 3 ... 33