ผู้เขียน หัวข้อ: บริการทำความสะอาด: แต่ละส่วนในบ้าน ต้องทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน  (อ่าน 10 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 228
  • รับจ้างโพสเว็บราคาถูก, รับจ้างโปรโมทเว็บราคาถูก
    • ดูรายละเอียด
บริการทำความสะอาด: แต่ละส่วนในบ้าน ต้องทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน

แต่ละส่วนในบ้าน ต้องทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน

ทำความสะอาดบ้าน ล้างห้องน้ำ ควรทำทุก 1 เดือน
ทำความสะอาดบ้าน ล้างห้องน้ำ เจ้าของบ้านแต่ละท่านอาจมีการทำงานบ้านง่ายๆ อย่างการล้างห้องน้ำ ปัดกวาดเช็ดถูเอง ทำความสะอาดเองวันเว้นวันหรือสัปดาห์ละครั้งแล้วแต่สะดวก โดยพึ่งแม่บ้านมืออาชีพมาทำความสะอาดแบบลงรายละเอียดลึกตามซอกมุมต่าง ๆ ที่เข้าไม่ถึง อย่างน้อยสักเดือนละ 1 ครั้ง

ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคที่นอน ควรทำทุก 3 เดือน
ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคที่นอน ที่นอนที่เรานอนทุกวัน มีเศษผิวหนังจากร่างกายเราร่วงหล่นอยู่และกลายเป็นอาหารชั้นดีของไรฝุ่นซึ่งเป็นอีกตัวการทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ และนี่เป็นที่มาว่าเราควรให้มืออาชีพมาจัดการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค และดูดไรฝุ่นที่อยู่ลึกถึงด้านในเนื้อที่นอน

ล้างแอร์ ทำความสะอาดถังเก็บน้ำ เครื่องซักผ้า ถังดักไขมัน ควรทำทุก 6 เดือน
ล้างแอร์ ช่วยให้แอร์ทำงานได้ดี ยืดอายุการใช้งาน ไม่ทำงานหนักเกินไป และยังช่วยกำจัดเชื้อโรคที่สะสมอีกด้วย เจ้าของบ้านอาจติดต่อช่างเข้ามาล้างแอร์ประมาณเดือนมีนาคมเพื่อรับหน้าร้อน จากนั้นอีก 6 เดือน จึงล้างอีกรอบ

ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคม่าน โซฟา พรม ควรทำปีละ 1 ครั้ง
ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ม่าน โซฟา พรม ซึ่งเป็นส่วนที่เราใช้งานบ่อย แต่ไม่ได้ทำความสะอาดกันบ่อยๆ ทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ฝุ่น และไรฝุ่นชั้นดี จึงควรพึ่งมืออาชีพที่มีอุปกรณ์เฉพาะมาทำความสะอาดให้หมดจดทุกปี

วิธีจัดบ้านให้สะอาดนาน และทำให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น

เพิ่มปริมาณถังขยะภายในบ้าน
หลายคนรู้สึกว่าเพราะถังขยะอยู่ไกล ขี้เกียจเดินไปทิ้ง เอาวางไว้ตรงนี้ก่อน จึงทำให้พบว่ามีการวางกระดาษทิชชูใช้แล้ว หรือซองพลาสติกต่างๆ เอาไว้ทั่วบ้านโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะลืมเอาไปทิ้ง แต่ข้อดีของการเพิ่มปริมาณถังขยะภายในบ้านตามจุดต่างๆ ภายในบ้านก็จะเท่ากับเป็นการย้ำเตือนให้เราทิ้งขยะให้ถูกที่ทันที ไม่ปล่อยลืมไว้จนกลายเป็นขยะในบ้าน และที่สำคัญ การเพิ่มปริมาณถังขยะภายในบ้านยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกดีๆ ในการทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกทางอีกด้วย

พยายามเก็บข้าวของไว้ในตู้
ที่ใดมีอากาศ มีลมพัดผ่านที่นั่นมักมีฝุ่น และยิ่งถ้าบ้านใครนิยมที่จะเปิดประตู หรือเปิดหน้าต่างไว้ ข้อดีคือเพื่อช่วยให้อากาศในบ้านถ่ายเทได้สะดวก ข้อเสียคือ ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อาทิ เสื้อผ้าที่เป็นตัวเก็บฝุ่นได้ง่าย หรือโต๊ะเครื่องแป้งที่มักจะเห็นข้าวของเครื่องใช้มากมายที่วางรวมกันอย่างระเกะระกะ แบบนี้ก็ยิ่งทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นได้ง่าย ลองสังเกตดูว่าหลังจากที่ได้เช็ดฝุ่นออกแล้ว แต่ปริมาณข้าวของยังท่าเดิม วางระเกะระกะเหมือนเดิม เพียง 2-3 วัน ก็เกิดฝุ่นสะสมได้มากแล้ว

ฝุ่น นอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคในระบบทางเดินหายใจแล้ว ยังทำความสะอาดได้ยากอีกด้วย ยกตัวอย่างขณะที่เช็ดทำความสะอาดโต๊ะเครื่องแป้งลองสังเกตตามมุมหรือซอกของโต๊ะ จะพบว่ายังมีฝุ่นที่เกาะติดอยู่ซึ่งทำความสะอาดได้ยากมาก กลับกันหากเรามีการจัดเรียงข้าวเครื่องใช้บนโต๊ะทันทีหลังใช้งานเสร็จ ก็จะช่วยลดงาน และลดขั้นตอนการทำความสะอาดบ้านได้อีกเยอะทีเดียว

ลดปริมาณพรมภายในบ้าน
การตกแต่งบ้านด้วยพรม ไม่ว่าจะเป็นพรมขนสั้น หรือพรมขนยาว จะช่วยทำให้บ้านดูดีมากขึ้น แต่ข้อจำกัดอีกเรื่องคือ พรมเป็นตัวเก็บกักฝุ่นได้ดีเช่นกัน และที่สำคัญ ต่อให้ใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็ไม่สามารถดูดฝุ่นบนพรมได้ ยกเว้นว่าจะใชเครื่องดูดฝุ่นช่วย แต่การแก้ไขที่สาเหตุอย่างการปรับลดปริมาณพรมในบ้านลง ก็ย่อมเป็นการช่วยลดการเกิดฝุ่นในบ้านได้ดีกว่า และลดปัญหาเรื่องของสุขภาพได้อีกด้วย